ผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่จำเพาะ หลายๆ ท่านมักมีโรคประจำตัวเรื้อรังร่วมด้วย ทำให้มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีฝุ่นจิ๋ว หรือ PM 2.5 ปริมาณมาก ฝุ่นจิ๋วนี้เมื่อผู้สูงอายุสูดหายใจเข้าไปสามารถผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยตรงและส่งผลกระทบต่อร่างกายได้อย่างคาดไม่ถึง
ฝุ่น PM 2.5 มาจากไหน
ปกติมนุษย์เราทำให้เกิดฝุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว แต่เมื่อมีลมพัด ฝนตก ก็ทำให้ความเข้มข้นของฝุ่นไม่มากพอที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่เมื่ออากาศนิ่ง ฝุ่นจะไม่ฟุ้งกระจาย คล้ายกับมีโดมขนาดใหญ่ครอบเอาไว้ ทำให้ความเข้มข้นของฝุ่นสูงมากจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
แหล่งสำคัญของฝุ่น PM 2.5
แหล่งสำคัญของ ฝุ่น PM 2.5 ได้แก่ การเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ไม่สมบูรณ์, ฝุ่นจากการก่อสร้าง, การเผาป่า, การเผาขยะ, ควันบุหรี่, ฯลฯ
ผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5
- สะสมตามหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวหรือตีบตัน หากเป็นหลอดเลือดที่สมอง ทำให้มีโอกาสเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ หากสะสมที่หลอดเลือดหัวใจก็ทำให้มีโอกาสเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจวายเฉียบพลัน
- สะสมในปอด ผู้สูงอายุที่มีโรคปอดเรื้อรังอยู่แล้ว เช่น โรคถุงลมโป่งพอง โรคหอบหืด ฝุ่นจิ๋วสามารถทำให้โรคกำเริบเฉียบพลันได้ นอกจากนั้นยังเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งปอด หากได้รับฝุ่นจิ๋วปริมาณมากและนาน
- สะสมในสมอง ทำให้เกิดการหลั่งสารอักเสบชนิดต่างๆ ส่งผลให้เซลล์สมองได้รับบาดเจ็บและเกิดภาวะสมองเสื่อมเร็วกว่าปกติ
ปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อมีฝุ่น PM 2.5
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากผู้สูงอายุชอบออกกำลัง แนะนำออกกำลังกายในบ้านหรือในฟิตเนสแทน
- หากจำเป็นต้องออกนอกอาคาร ควรสวมใส่หน้ากากที่ป้องกันฝุ่น PM 2.5 เสมอ และสวมใส่แว่นกันแดดเพื่อป้องกันฝุ่นเข้าตา
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนผู้สูงอายุ เพื่อช่วยกรองอากาศให้สะอาดมากขึ้น
- ดูแลบ้านให้สะอาดสม่ำเสมอ ควรปิดหน้าต่างประตูเพื่อป้องกันฝุ่นเข้ามาในบ้าน
- ติดตามข่าวสารเรื่องสภาพอากาศสม่ำเสมอ
ข้อมูลโดย: พญ.วชิราภรณ์ คูณรังษีสมบูรณ์