หนึ่งในมะเร็งที่ติด 1 ใน 10 มะเร็งที่คนไทยเป็นกันมาก คือ มะเร็งกระเพาะอาหาร ซึ่งข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (GLOBOCAN) 2020 ระบุว่า มะเร็งกระเพาะอาหารเป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 4 ของการตายจากโรคมะเร็งทั้งหมดทั่วโลกและมีอุบัติการณ์เป็นอันดับที่ 5 ของโรคมะเร็งทั้งหมด โดยพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงและมักพบในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะฉะนั้นการใส่ใจตรวจสุขภาพ ไม่ละเลยความผิดปกติที่มาเยี่ยมเยือนร่างกาย และรู้เท่าทันโรคมะเร็งกระเพาะอาหารคือสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจ
รู้จักมะเร็งกระเพาะอาหาร
กระเพาะอาหารเป็นส่วนหนึ่งของระบบย่อยอาหาร มีหน้าที่ย่อยและดูดซึมสารอาหารก่อนที่จะเคลื่อนต่อไปที่ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ สำหรับมะเร็งกระเพาะอาหาร (Gastric Cancer) เกิดขึ้นจากเซลล์เยื่อบุผิวด้านในกระจายมายังเยื่อบุผิวด้านนอก สามารถเกิดขึ้นหลายลักษณะ ได้แก่ เยื่อบุกระเพาะอาหาร มะเร็งต่อมน้ำเหลืองกระเพาะอาหาร มะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โดยเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุและหลายปัจจัย
ตัวการมะเร็งกระเพาะอาหาร
ตัวการที่ทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหารมีหลายปัจจัย ได้แก่
- การติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter Pylori. (H.pylori) ซึ่งเชื้อแบคทีเรียตัวนี้เมื่อเข้าไปอาศัยอยู่ในกระเพาะอาหารจะสร้างสารพิษ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังเป็นแผลในกระเพาะอาหาร แผลในลำไส้เล็ก ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเซลล์ กลายเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในที่สุด
- การอักเสบเรื้อรังของกระเพาะอาหารจากอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ ได้แก่
- อาหารที่มีสารกลุ่ม Polycyclic Aromatic Hydrocarbon (PAH) ปนเปื้อน ส่งผลให้เสี่ยงต่อมะเร็ง พบในส่วนที่ไหม้เกรียมของอาหารปิ้ง ย่าง รมควัน
- อาหารที่มีสารโพลาร์ (Polar Compounds) จากการใช้น้ำมันทอดซ้ำมากกว่า 1 ครั้ง
- อาหารที่มีสาร Acrylamide มักพบในอาหารอบกรอบ ทอด ปิ้ง คั่ว
- อาหารที่มีสารไนโตรซามีน (Nitrosamine) พบในของหมักดอง อาหารกระป๋อง อาหารปิ้งย่าง อาหารเค็มจัด
- อาหารที่มีสาร Heterocyclic Animes (HCAs) จากเนื้อสัตว์ที่ประกอบอาหารด้วยการผ่านความร้อน เช่น อบ ย่าง ต้ม หรือทอด เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะอาหาร มากน้อยแตกต่างกันไปตามลักษณะของการให้ความร้อน
- อายุ ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมากขึ้น
- เพศ ผู้ชายมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิง
- การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารให้สูงขึ้น
- เชื้อชาติ ชาวเอเชียพบมากกว่าชาวตะวันตก โดยเฉพาะญี่ปุ่น จีน เกาหลี
- มะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือมะเร็ง GIST จากความผิดปกติของเซลล์ในกระเพาะอาหารโดยไม่มีสาเหตุ
- พันธุกรรม คนในครอบครัวมีประวัติเคยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ทำให้มีความเสี่ยงสูงถึง 70%
- ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป A มีความเสี่ยงมากกว่ากรุ๊ปอื่น 20%
- ผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร
อาการมะเร็งกระเพาะอาหาร
ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารส่วนใหญ่มักพบว่าป่วยในระยะลุกลาม เนื่องจากในระยะเริ่มต้นของโรคมักไม่แสดงอาการใด ๆ จนกระทั่งอาการรุนแรงขึ้น
อาการในระยะยังไม่ลุกลาม ได้แก่
- อาหารไม่ย่อย
- ไม่สบายช่องท้อง
- ท้องอืด
- จุก
- แน่นท้อง
- คลื่นไส้
- เบื่ออาหาร
- น้ำหนักลด
- อาจปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอก
อาการในระยะลุกลาม ได้แก่
- อุจจาระสีดำ
- เลือดปนในอุจจาระ
- ปวดท้อง
- อาเจียนเป็นเลือด
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- คลำได้ก้อนต่อมน้ำเหลืองที่แอ่งไหปลาร้าข้างซ้าย
- ท้องบวมจากน้ำในช่องท้อง
รักษามะเร็งกระเพาะอาหาร
การรักษามะเร็งกระเพาะอาหารทำได้โดยผ่าตัด ให้เคมีบำบัด และฉายรังสีรักษาขึ้นอยู่กับระยะ อาการ และความรุนแรงของผู้ป่วย
ในช่วงแรกที่มีอาการคล้ายโรคกระเพาะอาหารอักเสบหรือแผลในกระเพาะอาหารแพทย์จะให้รับประทานยาฆ่าเชื้อหากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 สัปดาห์ หรืออาการกำเริบเมื่อครบ 6 – 8 สัปดาห์ของการรักษาจำเป็นจะต้องเข้ารับการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารเพื่อการรักษาในขั้นต่อไป
มะเร็งระยะเริ่มแรกที่ยังอยู่ที่ผิวเยื่อบุส่วนมากตัดออกโดยการส่องกล้องกระเพาะอาหารระยะเริ่มต้นของมะเร็งกระเพาะอาหารแพทย์อาจทำการผ่าตัดส่วนที่เป็นมะเร็งออกไปโดยเป็นการผ่าตัดกระเพาะอาหารและการผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองที่มีการกระจายของโรคมะเร็งจากนั้นจึงให้ยาเคมีบำบัดหลังผ่าตัดเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลืออยู่หรือหยุดการเติบโตของเซลล์มะเร็งทั่วร่างกาย
ระยะลุกลามของมะเร็งกระเพาะอาหารแพทย์จะทำการให้เคมีบำบัดเป็นหลักร่วมกับการฉายรังสีรักษาในบางครั้งหากเกิดภาวะแทรกซ้อนจะใช้การผ่าตัดรักษาเช่นก้อนมะเร็งอุดกั้นทางเดินน้ำดีเป็นต้นเพราะในระยะนี้หากแพทย์ใช้การผ่าตัดเพียงอย่างเดียวมะเร็งมีโอกาสกลับมาอีกมากกว่า 2 ใน 3 ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ พร้อมกับการแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง บางคนมะเร็งกลับเป็นซ้ำและลุกลามไปอวัยวะอื่น
การตรวจติดตามผู้ป่วยหลังทำการรักษามีความสำคัญมากเพราะหากเกิดการเป็นซ้ำของโรคแพทย์จะสามารถตรวจพบและทำการรักษาได้อย่างทันท่วงทีผู้ป่วยจึงควรมาตรวจตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ
ป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร
- กินร้อนช้อนกลางทุกมื้อ
- กินผักผลไม้ให้ได้ครึ่งหนึ่งของปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ
- เลี่ยงอาหารปิ้ง ย่าง หมัก ดอง เค็มจัด มันจัด
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ตรวจคัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหารด้วยการส่องกล้องเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป
- ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ตรวจคัดกรองโดยการส่องกล้องและตรวจหาเชื้อ Helicobacter Pylori เพื่อทำการรักษา
อย่างไรก็ตามการตรวจพบมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะเริ่มต้นมีโอกาสหายได้แต่คนส่วนใหญ่มักพบในระยะลุกลาม ดังนั้นการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีและตรวจคัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหารเมื่อถึงวัยที่เหมาะสม หมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายและดูแลสุขภาพให้แข็งแรง คือหนทางการดูแลป้องกันโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะยาว