
RSV vaccine ในหญิงตั้งครรภ์
ประโยชน์ 2 ต่อ ปกป้องลูกน้อยและคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ให้ติดเชื้อ
RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง สามารถเกิดการติดเชื้อได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ในประเทศไทยพบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝนหรือช่วงปลายฝนต้นหนาว แต่ส่วนมากแล้วมักเกิดในเด็กเล็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 3 ปีและหญิงตั้งครรภ์
โดยเฉพาะเด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือมีโรคประจำตัว มักมีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ RSV
การฉีดวัคซีน RSV ในหญิงตั้งครรภ์
จะช่วยลดความเสี่ยงที่รุนแรงของการติดเชื้อในทารกแรกเกิดได้อย่างมีนัยสำคัญ มีการศึกษาพบว่าการฉีดวัคซีนนี้ สามารถลดการเกิดโรค RSV ที่รุนแรงในทารกได้ประมาณ 70%
ปัจจุบันมี วัคซีนป้องกันไวรัสระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง [RSV] สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งได้รับการพัฒนาเพิ่อป้องกันการติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์ และยังเป็นการส่งต่อภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
โดยลดความเสี่ยงติดเชื้อ RSV ของทารกได้ 81.8% ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง และลดความรุนแรงของโรค ให้แก่ทารกในครรภ์ จนถึงอายุ 6 เดือนหลังคลอด
วัคซีน RSV ได้รับการศึกษาแล้วว่ามีความปลอดภัยสำหรับการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ผลข้างเคียงที่พบได้แก่ ปวดบริเวณที่ฉีด ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศรีษะ คลื่นไส้ ซึ่งมักจะมีอาการไม่รุนแรง
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค CDC แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับวัคซีน RSV หนึ่งเข็ม ระหว่างสัปดาห์ที่ 32-36 ของการตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันโรค RSV ที่รุนแรงในทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน
การดูแลสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์
ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส RSV สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคในทารกแรกเกิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่ช่วงแรกเกิด
ก่อนคุณแม่เข้ารับวัคซีนควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสม เพื่อเป็นแนวทางที่สามารถช่วยปกป้องทั้งคุณแม่และทารกในช่วงเวลาที่เปราะบางนี้ได้