โรคภายในของผู้หญิงที่พบบ่อยมาก ได้แก่
- โรคตกขาว
- เลือดออกผิดปกติ
- ประจำเดือนมาไม่ตรงหรือมาน้อย
- ปวดประจำเดือน
- ปวดท้องน้อย
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
ซึ่งมีผลมาจากผู้หญิงสมัยนี้วิถีชีวิตเปลี่ยนไป คือ แต่งงานช้าลง มีลูกตอนอายุมาก ทำให้รอบประจำเดือนมีมากขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อนที่อายุ 15 – 16 ปี ก็ตั้งท้องแล้ว ทำให้รังไข่มีโอกาสได้หยุดทำงาน ยิ่งในรายที่มีลูกหัวปีท้ายปี รังไข่ก็แทบจะไม่ได้ทำงานเลย เนื่องจากโรคเหล่านี้เกี่ยวพันกับการทำงานของรังไข่นั่นเอง
“ส่วนโรคตกขาวที่เป็นกันมาก หมายถึง การมีมูกออกมาจากช่องคลอด ปกติจะมีอยู่แล้ว เพราะเป็นน้ำหล่อลื่น แต่หากเกิดอักเสบจากการติดเชื้อต่างๆ เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อพยาธิ ซึ่งไม่ถือว่าน่ากลัว แต่น่ารำคาญ เช่น ทำให้คัน มีกลิ่น มีมูกเยอะเกินไป อะไรก็ตามที่เคยเป็นปกติของชีวิตแล้วไม่เป็นไปตามนั้นก็ถือว่าผิดปกติ อย่างตกขาวที่มีอาการคัน มีกลิ่น หรือมีมูกเยอะเกินไปถือว่าผิดปกติแล้ว ซึ่งควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติต่อไป”
ใช้ชีวิตให้ห่างจากโรค
- ไม่สูบบุหรี่ เพราะสารทาร์และนิโคตินจะเข้าไปในกระแสเลือด
- รักษาสุขอนามัยอย่างพอดี
- ไม่เปลี่ยนคู่นอน
- ไม่ใช้แผ่นอนามัยแบบแผ่น โดยเฉพาะชนิดมีน้ำหอม เพราะแผ่นอนามัยจะดูดซึมความชื้นไปเก็บสะสม แต่อากาศไม่ผ่าน ทำให้หมักหมมเชื้อโรคที่เจริญเติบโต เช่น เชื้อรา ทำให้เป็นเชื้อรากันมาก ช่วงมีประจำเดือนควรเปลี่ยนผ้าอนามัยให้บ่อย อย่างน้อยทุก 3 ชั่วโมง