โรคมะเร็งเป็นภัยร้ายอันดับต้น ๆ ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เด็กหรือผู้สูงอายุก็มีโอกาสที่จะป่วยเป็นมะเร็งได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตรวจพบเจอในระยะท้ายของโรคก็เป็นการยากที่จะรักษาให้หายขาด อาจทำได้เพียงบรรเทาและประคองอาการไปได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น โรคมะเร็งจึงเป็นโรคที่ควรให้ความใส่ใจและหมั่นสังเกตอาการหรือเข้ารับการตรวจคัดกรองสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพราะหากตรวจพบได้เร็วก็ย่อมรักษาได้อย่างทันท่วงทีและมีโอกาสได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มแรก
มะเร็งปากมดลูกคืออะไร
มะเร็งปากมดลูกเป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตที่เป็นภัยร้ายด้านสุขภาพสำหรับผู้หญิงและยังจัดเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกจัดอยู่ในอันดับ 5 ของมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ราว 5,500 คนต่อปี หรือคิดเป็นอุบัติการณ์การเกิดโรค 9.3 คนต่อประชากรแสนคน และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 2,200 คนต่อปี
ตัวการมะเร็งปากมดลูก
สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก คือ การติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ที่สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งเชื้อไวรัส HPV มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกจะมีอยู่ประมาณ 15 สายพันธุ์ ดังนั้นในช่วงอายุ 25 ปี หรือมีเพศสัมพันธ์แล้วอย่างน้อย 3 ปีสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ทันที ทั้งการตรวจเซลล์บริเวณปากมดลูก การตรวจอัลตราซาวนด์มดลูก รังไข่ ซึ่งมะเร็งปากมดลูกมีโอกาสที่จะตรวจเจอและรับการรักษาได้ก่อนที่จะลุกลามกลายไปเป็นมะเร็ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงควรมารับการตรวจภายในสตรีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
มะเร็งปากมดลูกมีกี่ระยะ
มะเร็งปากมดลูกมี 4 ระยะด้วยกัน ได้แก่
- ระยะที่ 1 หรือระยะแรก มะเร็งจะอยู่ที่บริเวณปากมดลูก
- ระยะที่ 2 กระจายออกนอกปากมดลูกไปที่อวัยวะข้างเคียงคือเนื้อเยื่อรอบปากมดลูก
- ระยะที่ 3 กระจายออกไปที่ช่องคลอดส่วนล่างท่อไต
- ระยะที่ 4 หรือระยะสุดท้าย มะเร็งกระจายไปในช่องท้อง ตับ ปอด เป็นระยะที่อันตรายมาก และมีโอกาสเสียชีวิตสูง
ตรวจรักษามะเร็งปากมดลูกอย่างไร
สำหรับการรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกมีหลากหลายแบบ ตั้งแต่ผ่าตัด ให้ยาเคมีบำบัด ฉายแสง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเพื่อจะได้ทราบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มต้นหรือระยะก่อนเป็นมะเร็ง ทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่มะเร็งจะกระจายลุกลามไปอวัยวะอื่น ทำให้ไม่กลับมาเป็นซ้ำ