นอนกรน ต้นตอโรคร้าย เสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

นอนกรน ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

นอกจากการนอนกรนจะมีผลกระทบกับคนรอบข้างแล้ว อาการนอนกรนยังมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายที่ควรเฝ้าระวังอีกด้วย แล้วการนอนกรนแบบไหนที่น่าเป็นห่วงบ้าง

  • นอนกรนดังมากเป็นประจำ

  • หยุดหายใจเป็นช่วงๆ ระหว่างหลับ

  • อาการเหมือนหายใจไม่ออก หรือเหมือนสำลักน้ำลายขณะหลับ

  • ตื่นมาตอนเช้าไม่สดชื่น รู้สึกเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม

  • ปวดศีรษะในตอนเช้าเป็นประจำ

  • อ่อนเพลีย ง่วงนอนมากผิดปกติในตอนกลางวัน

  • ขาดสมาธิ ความจำไม่ดี

  • ปากแห้ง คอแห้ง รู้สึกเจ็บคอเมื่อตื่นขึ้นมา

  • ปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน

  • กัดฟันขณะนอนหลับ

  • เจ็บหน้าอกในตอนกลางคืน

  • ความดันโลหิตสูงโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด


ใครบ้างที่มีความเสี่ยงในการนอนกรน

  • ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน พบว่าผู้ที่มีน้ำหนักมากจะมีทางเดินหายใจส่วนบนแคบกว่าผู้ที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ

  • เป็นโรคภูมิแพ้บริเวณจมูกหรือมีริดสีดวงจมูก

  • มีสันจมูกเบี้ยวหรือคด รูปหน้าหรือคางผิดปกติ เช่น คางเล็ก คางหลุบ

  • มีต่อมทอนซิลโตขวางทางเดินหายใจ

  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่เป็นประจำ

  • การรับประทานยาที่ทำให้เกิดอาการง่วง เช่น ยาแก้แพ้ ยานอนหลับ ยาคลายเครียด

  • ผู้หญิงเมื่อเข้าวัยหมดประจำเดือน และผู้หญิงตั้งครรภ์


 

ภาวะแทรกซ้อนจากการนอนกรน

      โรคแทรกซ้อนขณะนอนกรนมีค่อนข้างมาก เนื่องจากเวลาที่หยุดหายใจหรือท่อทางเดินหายใจปิดตัวลงระดับออกซิเจนในร่างกายจะตกลงและร่างกายจะไม่ยอมขาดออกซิเจนต่ออาจทำให้เกิดการตื่นตัวของสมองให้กลับมาหายใจใหม่ ในการตื่นตัวบ่อย ๆ จะส่งผลให้นอนไม่พอทำให้เกิดโรคตามมาหลาย ๆ อย่าง เช่น โรคเครียด โรคซึมเศร้า รวมถึงโรคสมองเสื่อม อีกอย่างเมื่อระดับออกซิเจนลดลงทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกายเป็นการชดเชยทำให้หัวใจทำงานหนักเป็นช่วง ๆ ยิ่งทำงานหนักบ่อย ๆ ก็เกิดโรคซึ่งโรคที่ตามมา ในกรณีนี้คือโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น

 

Privacy Settings