หลอดเลือดโป่งพองคืออะไร
โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง คือ สภาวะที่หลอดเลือดขยายใหญ่หรือโป่งพองขึ้น จากผนังหลอดเลือดแข็งตัวและขาดความยืดหยุ่น เกิดได้จากหลายสาเหตุ
ปัจจัยเสี่ยงหลอดเลือดโป่งพอง
ปัจจัยเสี่ยง 7 ข้อ ได้แก่
1) บุหรี่
2) ความดันโลหิตสูง
3) ภาวะไขมันในเลือดสูง
4) น้ำหนักตัวเกิน
5) ความเครียด
6) กรรมพันธุ์
7) การติดเชื้อในกระแสเลือด
รักษาหลอดเลือดโป่งพองอย่างไร
สำหรับการรักษาหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง หากพบการโป่งพองไม่เกิน 5 เซนติเมตร แพทย์จะให้รับประทานยาร่วมกับการติดตามผลการรักษา โดยการเอกซเรย์หรืออัลตราซาวนด์ปีละ 1 ครั้ง แต่หากโป่งพองมากกว่า 5 เซนติเมตร แพทย์จะให้ยารับประทานและติดตามผลถี่ขึ้น ร่วมกับการควบคุมปัจจัยเสี่ยง แต่หากเส้นเลือดที่โป่งพองแตก ต้องรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาให้เร็วที่สุด ยิ่งเร็วโอกาสรอดชีวิตยิ่งมีมาก
ความรุนแรงเมื่อหลอดเลือดโป่งพองคืออะไร
ความน่ากลัวของโรคนี้คือ ผู้ป่วยไม่รู้ตัวมาก่อน เพราะโป่งพองไม่มาก จะไม่มีอาการแสดงออก กระทั่งเมื่อเส้นเลือดโป่งพองมากจนไปกดทับอวัยวะข้างเคียง ก็จะเกิดอาการกับอวัยวะนั้น เช่น อาการปวดแน่นในท้อง แม้โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองมีโอกาสหาย หากเส้นเลือดที่โป่งพองไม่แตก ในทางกลับกันหากหลอดเลือดแดงใหญ่ที่โป่งพองในช่องท้องหรือบริเวณอื่นแตก อัตราการเสียชีวิตจะสูงถึง 50%
ป้องกันหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง
การดูแลป้องกันตนเองจากหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ทำได้โดยตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้ง
- ในผู้ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี แต่อายุกิน 45 ปีขึ้นไป ควรตรวจร่างกายโดยใส่ใจการเอกซเรย์ปอด อัลตราซาวนด์ช่องท้อง ตรวจการทำงานของตับ ไต ทดสอบประสิทธิภาพของหัวใจ
- ในผู้ที่อายุ 30 – 45 ปีเป็นช่วงอายุกึ่งกลาง ต้องพิจารณาจาก 7 ปัจจัยเสี่ยงข้างต้น หากพบว่าน้อยกว่า 3 ปัจจัยก็สามารถตรวจสุขภาพเหมือนคนอายุ 30 ปี แต่หากพบปัจจัยเสี่ยงมากกว่า 3 ปัจจัย ควรตรวจสุขภาพเหมือนคนอายุ 45 ปีขึ้นไป แต่หากพบว่าหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองในช่องท้องแตก ต้องรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด ยิ่งเร็วยิ่งมีโอกาสรอด ที่สำคัญควรเลือกโรงพยาบาลที่มีศัลยแพทย์และเครื่องมือที่พร้อมจะทำการผ่าตัดให้เร็วที่สุด