ข้อสะโพกเสื่อม (Osteoarthritis of the hip)

ข้อสะโพกเสื่อม

ข้อสะโพกเสื่อม(Osteoarthritis of the hip) คือ กระดูกอ่อนที่คลุมผิวข้อสะโพกเกิดการสึกหรอและเสียหาย ส่งผลให้กระดูกสะโพกที่เคลื่อนที่ขยับกันเกิดการเสียดสี ทำให้เกิดความเจ็บปวดและจำกัดการเคลื่อนไหวในผู้ป่วย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในชีวิตประจำวัน 

 

สาเหตุของข้อสะโพกเสื่อม

  1. อายุ: การเสื่อมสภาพของข้อสะโพกมักเกิดขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการสึกหรอของกระดูกอ่อนที่เคลือบข้อสะโพกตามการใช้งานอย่างต่อเนื่องในระยะยาว 

  1. การบาดเจ็บที่ข้อสะโพก: จากอุบัติเหตุหรือกิจกรรมทางกายที่รุนแรงอาจทำให้ข้อสะโพกเสื่อมเร็วขึ้น 

  1. การใช้งานข้อสะโพกที่มากเกินไป: การใช้ข้อสะโพกในกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยๆ เช่น การออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง อาจทำให้กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น 

  1. น้ำหนักตัว: น้ำหนักตัวที่มากเกินไปจะทำให้ข้อสะโพกได้รับแรงกดทับมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ข้อสะโพกเสื่อมเร็วขึ้น 

  1. โรคข้ออักเสบ: เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์  อาจทำให้เกิดการอักเสบที่ข้อสะโพกจนส่งผลให้กระดูกอ่อนเกิดการสึกหรอ 

  1. พันธุกรรม: บางคนอาจมีประวัติครอบครัวที่มีปัญหาข้อสะโพกเสื่อม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดข้อสะโพกเสื่อมสูงขึ้น 

 

อาการของข้อสะโพกเสื่อม

อาการของข้อสะโพกเสื่อมสามารถแสดงออกได้ในหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งอาการที่เกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปและอาการที่เกิดขึ้นอย่างทันที โดยอาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้ :

  1. ปวดสะโพก: ผู้ป่วยมักมีอาการปวดที่ข้อสะโพก หรือปวดในพื้นที่รอบๆ ข้อสะโพก เช่น ที่ขาข้างใน หรือที่เข่า 

  1. การเคลื่อนไหวข้อสะโพกจำกัด: รู้สึกว่าไม่สามารถขยับข้อสะโพกได้อย่างเต็มที่ บางคนอาจมีปัญหากับการเดินหรือการขึ้นลงบันได 

  1. การบวมและอักเสบ: บางครั้งข้อสะโพกอาจมีการบวมและอักเสบ ซึ่งมักจะทำให้รู้สึกไม่สบายและเพิ่มอาการเจ็บปวด 

  1. เสียงกรอบแกรบจากข้อสะโพก: ข้อสะโพกที่เสื่อมจะมีกระดูกจะเสียดสีกันเวลาขยับ ทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบในระหว่างการเคลื่อนไหว 

  1. ความรู้สึกไม่เมั่นคง: ในบางกรณี ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าข้อสะโพกไม่มั่นคง ทำให้การเคลื่อนไหวหรือการเดินมีความเสี่ยงที่จะล้ม 

 

วิธีการรักษาข้อสะโพกเสื่อม 

การรักษาข้อสะโพกเสื่อมสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการและความต้องการของผู้ป่วย โดยแบ่งเป็น :

  1. การรักษาด้วยยา: การใช้ยาแก้ปวด เช่น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) หรือยาบรรเทาปวดชนิดต่างๆ สามารถช่วยลดอาการปวดและอักเสบได้ 

  1. การทำกายภาพบำบัด: การทำกายภาพบำบัดสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบๆ ข้อสะโพก 

  1. การลดน้ำหนัก: หากผู้ป่วยมีน้ำหนักเกิน การลดน้ำหนักจะช่วยลดแรงกดที่ข้อสะโพกและลดการเสื่อมของข้อ 

  1. การฉีดยาสเตียรอยด์: ในบางกรณีแพทย์อาจฉีดยาสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด 

  1. การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก: ในกรณีที่การรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ไม่สามารถบรรเทาอาการได้, การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีในการรรักษา โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเอาข้อสะโพกที่เสื่อมออกและแทนที่ด้วยข้อสะโพกเทียม 

 

 


 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และนัดหมายได้ที่ 
แผนกกระดูกและข้อ โรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น
โทร. 043-042772
Line : @bangkokkhonkaen

นพ.วิศรุต วัฒนาศิริพร
ชำนาญพิเศษ: ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ (Orthopaedic Surgery)

Privacy Settings